เรื่องราวของกุรบ่าน (พลีสมบัติเพื่ออัลลอฮ์)
อาดัม พูดกับกอบีลว่า หากเจ้าไม่พอใจในคำสั่งครั้งนี้ เจ้าทั้งสองจงทำกุรบาน กุรบานของเจ้าทั้งสองจะเป็นเครื่องตัดสินระหว่างพวกเจ้า “กุรบานจะตัดสินระหว่างเราได้อย่างไร?” กอบีลถาม อาดัมตอบว่า “กุรบานของใครที่อัลลอฮ์ทรงรับ ผู้นั้นจะเป็นผู้สมรสกับนางลูซา”
ทั้งสองจะต้องนำกุรบานมาวางไว้บนพื้น จนกระทั่งมีไฟมากินกุรบานนั้น
ฮาบีลตั้งใจเลือกแกะตัวอ้วนพีเป็นกุรบาน ทั้งนี้เพื่อหวังในความพอพระทัยของพระองค์ ในขณะที่กอบีลเลือกรวงข้าวที่ไม่ดีและไม่สวยงามมาเป็นกุรบานที่จะทำให้ตัวเองใกล้ชิดกับพระองค์
ทั้งสองได้นำกุรบานไปวางไว้บนที่สูง ไฟจากท้องฟ้าได้ลงมา และได้ยกแกะของฮาบีลขึ้นสู่ท้องฟ้า (จากท่านอิบนิอับบาสและคนอื่น กล่าวว่า แกะดังกล่าวที่ถูกยกขึ้นสู่สวรรค์ และได้รับการเลี้ยงดูอยู่ที่นั่น จนกระทั่งพระองค์ได้ประทานให้กับอิบรอฮีมเพื่อไถ่ตัวอิสมาอีลจากการถูกเชือด)
กอบีลจึงเกิดความริษยาต่อฮาบีล และค่อยๆ เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้น จนเขากล่าวกับน้องชายฮาบีล ว่า กุรบานของเจ้าได้รับการตอบรับ ในขณะที่กุรบานของฉันถูกปฏิเสธ ฉันจะฆ่าแก (หากท่านยื่นมือของท่านมายังฉัน เพื่อจะฆ่าฉัน ฉันก็ไม่ยื่นมือของฉันไปยังท่าน เพื่อจะฆ่าท่าน แท้จริงฉันกลัวอัลลอฮ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก แท้จริงฉันต้องการที่จะให้ท่านนำบาปของฉันและบาปของท่านกลับไป และท่านก็จะกลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ชาวนรก และนั่นแหละคือการตอบแทนแก่บรรดาผู้อธรรม) ซูเราะห์อัลมาอีดะห์ อายะห์ที่ 28-29
ท่านอิบนิกาซีร กล่าวว่า คำพูดของฮาบีลดังกล่าวคือข้อเตือนใจให้แก่กอบีล หากเขาได้ไตร่ตรอง
อัลลอฮ์ทรงตรัสต่อว่า (แล้วจิตใจของเขาก็คล้อยตามเขาในการที่จะฆ่าน้องชายเขา แล้วเขาก็ฆ่าน้องชายของเขา ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ขาดทุน) เขาเป็นผู้เสียใจที่ทำให้ตนเองหลงผิด ทำให้ตัวเองขาดทุน ทำลายน้องชายของเขา ทำลายพ่อแม่ ซึ่งเป็นการเปิดประตูแห่งการพิโรธของพระองค์อัลลอฮ์เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ เขาเป็นผู้ขาดทุนในโลกดุนยานี้ และเป็นผู้ที่จะได้รับโทษทันอย่างแสนสาหัสในวันกียามะห์ ทั้งนี้เขาจะเป็นผู้รับบาปในฐานะที่เป็นอาชญากรแรกที่ฆ่าน้องชายของตัวเอง และจะต้องได้รับโทษทัณฑ์จากทุกการหลั่งเลือดบนหน้าแผ่นดินตั้งแต่คนแรกจนถึงคนสุดท้าย
อะไรคือผลตอบแทน ?
รอซูลกล่าวว่า “ไม่มีบาปอันใดที่หนักและเป็นสาเหตุให้พระองค์อัลลอฮ์ลงโทษทั้งในดุนยาและจะลงโทษในอาคีเราะ คือ การทำลายชีวิตผู้อื่นและการตัดขาดญาติพี่น้อง”
จากท่านอิบนิมัซอูด (ร.ด) กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์ กล่าวว่า “ไม่มีการทำลายชีวิตผู้ใด ด้วยการอธรรม เว้นแต่ลูกอาดัมคนแรกจะเป็นผู้ชดเชยจากเลือดของเขา เนื่องจากเขาเป็นคนแรกที่กระทำแบบอย่างการฆ่า”
จากท่านอับดุลเล๊าะ บินอัมร กล่าวว่า “แท้จริงชายที่ชั่วที่สุดในบันดาลูกหลานอาดัม คือผู้ซึ่งสังหารน้องชายของตัวเอง ไม่มีการนองเลือดครั้งใดที่เกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดิน นับตั้งแต่เขาได้สังหารน้องชายของเขาแล้ว จนกระทั่งถึงวันกียามะห์ เว้นเสียแต่ว่า บาปกรรมจากการหลั่งเลือดนั้น จะติดตัวเขาไปด้วย ทั้งนี้เนื่องจากเขาเป็นฆาตกรคนแรกบนหน้าแผ่นดิน”
ท่านอิบรอฮีม อัลนัคอี กล่าวว่า “ไม่มีผู้ที่ถูกฆ่าด้วยอธรรม ยกเว้นลูกอาดัมคนแรกและชัยตอนเป็นผู้ชดเชยเลือดของเขา”
ฮาบีลไม่ได้เป็นคนอ่อนแอ แต่เป็นชายหนุ่มที่อัลลอฮ์ทรงประทานความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและสติปัญญา เมื่อพี่ชายต้องการจะสังหารเขา แต่เขาไม่ยอมต่อสู้และไม่ต้องการที่จะสังหารพี่ชาย เขาจึงถูกสังหาร ร่างอันไร้วิญญาณของเขาก็ตกลงบนอ้อมแขนของกอบีล ผู้ซึ่งเพ่งมองร่างอันไร้วิญญาณของน้องชายด้วยความสงบนิ่ง พิจารณาตัวเองที่เป็นฆาตกรมีจิตวิญญาณ กับร่างอันไร้วิญญาณของน้องชายที่ไม่มีการเคลื่อนไหว และสงบนิ่งต่อหน้าศพที่เลือดกำลังไหลนองพื้น และไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
เขาไปไหน? เขาซ่อนอยู่ที่ไหน? ทั้งนี้เนื่องจากน้องชายเขา เป็นลูกหลานอาดัมคนแรกที่เสียชีวิตบนโลกดุนยา ซึ่งในขณะนั้นร่างอันไร้วิญญาณของน้องชายยังไม่ถูกฝัง
กอบีลหยุดนิ่ง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ในขณะที่เขากำลังพิจารณาอยู่นั้น เขาพลันได้ยินเสียงการต่อสู้ของอีกา 2 ตัว และอีกาตัวหนึ่งก็ถูกสังหาร อีกาตัวที่ฆ่าจึงลงมาคุ้ยเขี่ยดินให้เป็นหลุม และนำร่างของอีกาที่เสียชีวิตไปฝังในหลุมดังกล่าวและกลบดิน กอบีลเห็นเช่นนั้น ก็รู้สึกเสียใจกับความโง่เขลาของตัวเองที่ไม่สามารถแม้จะคิดได้เหมือนอีกา อัลลอฮ์ ตรัสว่า (แล้วอัลลอฮ์ได้ส่งอีกาตัวหนึ่งมาคุ้ยหาในดิน เพื่อที่จะให้เขาเห็นว่า เขาจะกลบศพของน้องชายของอย่างไร เขากล่าวว่า โอ้ความพินาศของฉัน ฉันไม่สามารถที่จะเป็นเช่นอีกาตัวนี้ในการกลบศพน้องชายของฉันเชียวนี้หรือ แล้วเขาก็กลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ตรอมใจ) ซูเราะห์อัลมาอีดะห์ อายะห์ที่ 31
อายะห์ และฮาดิษต่างๆ ที่เตือนมิให้สังหารชีวิตผู้อื่นด้วยอธรรม
1. (เนื่องจากเหตุนั้นแหละ เราจึงได้บัญญัติแก่วงศ์วานอิสราอีลว่า แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากการบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้ว ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล และผู้ใดไว้ชีวิตนั้น ก็ประหนึ่งว่าเขาไว้ชีวิตมนุษย์ทั้งมวล) ซูเราะห์อัลมาอีดะห์ อายะห์ที่ 32
ท่านอีหม่ามอิบนุหัจญร์ อัลหัยซามี กล่าวว่า “การสังหารคนเพียงคนเดียว เสมือนการสังหารมนุษย์ทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากความรุนแรงของการสังหารผู้อื่นด้วยอธรรม และความรุนแรงของการสังหาร คือเป็นเสมือนกับการสังหารมนุษย์ทั้งหมดเป็นความรุนแรงที่เลวร้ายมากสำหรับทุกๆ คน ดังนั้นการสังหารคนๆ เดียว จำเป็นต้องเหมือนกับการสังหารมนุษย์ทั้งหมด”
2. (และผู้ใดฆ่าผู้ศรัทธาโดยจงใจ การตอบแทนของเขาคือ นรกญะฮันนัม และเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล อัลลอฮ์จะทรงกริ้วโกรธเขา และทรงสาปแช่งเขา และได้ทรงเตรียมการลงโทษอันรุนแรงและใหญ่หลวงไว้สำหรับเขา)
3. จากท่านอาบีฮูรัยเราะห์ กล่าวว่า แท้จริงรอซูลุลลอฮ์ ซอลลอลลอฮุอาลัยฮีวาซัลลัม กล่าวว่า พวกท่านจงห่างไกลจากบุคคล 7 จำพวก (หมายถึง พวกที่สร้างความเสียหาย) มีผู้ถามว่า โอ้รอซูลุลลอฮ์ พวกเขาคือใคร ท่านตอบว่า “การตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ หมอผู้ทำเสน่ห์ ผู้ที่ฆ่าตัวเองซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงห้ามยกเว้นว่าฆ่าตัวเองในหนทางที่ถูกต้อง ผู้ที่กินดอกเบี้ย ผู้ที่กินสมบัติของลูกกำพร้า...และผู้ที่กล่าวโทษกับผู้ที่บริสุทธิ์ที่มีอีหม่านว่าทำซีนา”
4. จากอิบนิมัสอูด กล่าวว่า รอซูลกล่าวว่า “ประการแรกที่มนุษย์จะถูกสอบสวนในวันกียามะห์ คือ เรื่องการหลั่งเลือด)
วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น